The Soul Resort เป็น Luxury Wellness Hotel เลยครับ เอาแค่จากราคาซึ่งเอาเข้าจริง Ultra Luxury ได้เลยแบบจะไม่เถึยงสักคำ

ขอเกริ่นนิกนึงครับ จริงๆโรงแรมนี่เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ผมอยากไปพักมาตั้งแต่เปิดตัวแล้วครับ คือเห็นภาพจากบางเพจที่มีรูปโฆษณาของโรงแรม บวกกับช่วงนั้นโรงแรมติดต่อมาทำโปรร่วมกับกลุ่ม Hotel Addict ด้วย ซึ่งภาพ AD ที่ส่งมาลงคือสวยมากกกกก สวยแบบเห้ยยยยย ที่ไหนว่ะเนี่ย บวกกับตอนนั้นเห็นราคา Rate card ของโรงแรมคือ ดาวอังคารมาก พอลงแล้วราคายังดวงจันทร์อยู่เลย (เรทปกติอยู่ที่ 15,900 ++ ตอนนั้นทำโปรร่วมกับกลุ่ม 6,750 net ) ซึงตอนนั้นคือคิดเลยว่า เรทพีคมากกกกกก ราคาอะไรวะเนี่ย และยิ่งอ่านคำบรรยายต่างๆนาๆ ว่าเป็น Luxury Wellness Hotel ยิ่งอืมมมมมม…… ราคาจั่วมาขนาดนี้ ต้องมีดีบ้างแหละ และภาพแอดก็สวยจริงๆ ก็เลยเอาว่ะตัวสินใจซื้อ Voucher และไปพักให้มันรู้ไปเลย

ที่นี่จาก Information โรงแรมตั้ง Position ตัวเองเป็น Luxury Wellness Hotel เลยครับ เอาแค่จากราคาซึ่งเอาเข้าจริง Ultra Luxury ได้เลยแบบจะไม่เถึยงสักคำ เอาคำถามที่ทุกคนถามผมตอนที่ผมลงรูปว่ามาตอบเลยครับนั้นคือ ที่นี่สมราคามั้ย? คำตอบผมเลยคือ ใครสะดวกจ่ายแบบไม่เดือดร้อนเพื่อมาถ่ายรูปเท่ๆเก๋ๆ ทำ Content ก็เชิญเลยครับ ถามว่าห้องพัก Luxury ตามที่เคลมมั้ย ต้องตอบว่าทุกอย่างได้อยู่ครับ แต่ขอยึดคำว่า Luxury นะครับไม่ใช่คำว่า Ultra Luxury โดยการตกแต่งทั้งหมดของโรงแรมจะออกมาแนว Butique Luxury ครับจริงๆตอนแรกที่เห็นจะมองเป็น Lifestyle Luxury แต่ในความเห็นส่วนตัวผมว่าไม่ใช่ ถามว่าสวยมั้ยต้องบอกว่าสวยมากครับ Modern Chinses มาเต็มสวยมากกกกกกกกกกกกก ยิ่งตรงห้อง Tea Room คือสวยแบบ ส๊วยยยยยยย!!!!! และวิวคือเอกลักษณ์ของโรงแรมมากครับ ภูเขาหินที่ติดกับโรงแรมสร้างวิวได้เอกลักษณ์มาก การตกแต่งโดยรวมทั้งโรงแรมถือว่าสวยเกือบทุกจุด แต่พอหลุดรั่วโรงแรมไปก็คือเหมือนกลับมาสู่สระบุรีปกติ มีแค่รั่วลวดหนามกั้นบางๆเท่านั้น แต่ถ้าใครชอบความเงียบสงบ ความปลีกวิเวค ที่นี่ตอบโจทย์ แต่ช้าก่อนนนนนนนนนนนน โดยความที่เจ้าของพยายามทำที่นี่เป็น Landmark เลยดังนั้น ห้องอาหารต่างๆ สปา และโซนปฎิบัติธรรมของโรงแรม จึงทำมาเพื่อดึงดูดนักท่องเทียวโดยเฉพาะ เหมือนทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเลยครับ ดังนั้นที่นี่ห้องอาหารจะค่อนข้างมีชื่อเสียงสำหรับคนสระบุรีมากๆครับ เลยทำให้คนแวะเวียนเข้ามาโรงแรมกันเยอะ จนอาจจะทำให้แขกเสียความเป็นส่วนตัวของการเข้าพักไป ซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่ผมมองว่า ลูกค้ากลุ่มที่น่าจะเป็น Target ของโรงแรม (กลุ่มลูกค้า B+ ขึ้นไป) กังวลในข้อนี้ครับ จริงๆถ้าแยกโซนชัดเจนไปเลยน่าจะช่วยได้เยอะ แต่ด้วย Layout ของโรงแรมทำให้แบ่งโซนได้ยากครับ เพราะสนามตรงกลางเป็นจุดทางเดินไปทางห้อง Tea Room พอดี และเป็นขุดที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันแบบ 100% ซึ่งนั้นใครพักอยู่ชั้นล่างอาจจะไม่ถูกใจสิ่งนี้ครับ เพราะระเบียงที่มีก็คือตรงออกสู่สนามดังกล่าวเลย (ลองดูจากรูปก็ได้ครับ) ซึ่งจากที่ผมได้พูดมาก่อนหน้านี้ ผมเลยจะแนะนำว่า ถ้าใครไม่สะดวกด้วยราคาค่าห้องจริงๆ ก็มาทานอาหารที่โรงแรม หรือทาน Afternoon tea แล้วเข้ามาถ่ายรูปเล่นก็ได้ครับ เพราะที่นี่สวยจริงๆแหละ และก็อาหารห้องอาหารก็อร่อยมากๆด้วย อาหารแบบอารมณ์ร้านอาหารมากกว่าเป็นห้องอาหารในโรงแรมเลยครับ รสชาติคือแบบคนไทยรักเลยครับ และราคาค่าอาหารคือเป็นมิตรมากๆครับ นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมด สิ่งที่ผมขอชมว่าสวยแบบสวยแพงมากๆเลยคือ สระว่ายน้ำของที่นี่ครับ ซึ่งจะอยู่บนห้องอาหาร อยู่ติดกับสปาของโรงแรมเลย วิวและสระว่ายน้ำคือสวยมาก พระอาทิตย์ตกดินคือสวยตายไปเลย วิวที่ได้คือฟินดีจริงๆครับ (ลองดูจากรูปผมได้เลยครับ) ซึ่งผมมองว่ายากกมากครับที่จะหาโรงแรมที่เป็นจังหวัดเมืองรอง และทำสวยได้เนียบขนาดนี้ อันนี้ผมขอชมเป็นการส่วนตัวเลยครับ อ่อ….ลืมๆๆๆๆ อีกเรื่องที่ต้องเตือนคือที่นี่ไม่มีเมนูแอลขายนะครับ ดังนั้นด้วยความวิวฟินๆ อากาศดีๆบางทีก็อยากได้เครื่องดืมเฉกเช่นไวน์ หรือเครื่องดืมเย็นๆสักนิด ต้องซื้อจากข้างนอกเข้ามานะครับ โรงแรมไม่ได้ห้ามดืมนะครับ แถมมีแก้วไวน์ไว้บริการและถังน้ำแข็งแช่ไวน์มีให้ครบ ดังนั้นขาดื่มเวลาถ้าไปพักอย่าลืมซื้อมากันก่อนนะครับ เพราะจากที่พักไป 7-11 ที่ใกล้ที่สุดใช้เวลาขับรถนานพอสมควรครับ

ห้องพัก รอบนี้ผมมาพักห้อง One Bedroom Suite ครับ ซึ่งโรงแรมรู้ว่าเป็นผมมาพักเลยอัพเกรดให้ครับ ห้องเป็นห้องแบบ One Bedroom แบบมาตรฐานที่ค่อนข้างใหญ่มาเลยครับ แยกโซนห้องนอนและห้องนั้งเล่นชัดเจน มีห้องน้ำ 2 ห้องแยกมาให้ในโซนรับแขกเลย มีห้องสำหรับเก็บของให้แขกด้วย (น่าจะสำหรับคนที่มาพักยาวๆ) ห้องตกแต่งคือสวยเลยครับ สวยแบบมุมถ่ายรูปโครตเยอะ แล้วถ่ายรูปมุมไหนก็สวย มาถ่ายรูป Portrait เล่นได้เลยครับ หรือจะจริงจังก็ได้แบบไม่มีปัญหา (ลองดูรูปจากที่ผมถ่ายได้เลยครับ ถ่ายจากกล้องมือถือผมเลย) ซึ่งจุดเด่นที่ผมชอบของห้องนี้นอกจากการตกแต่งของห้องแล้ว คือระเบียงครับ ให้มาใหญ่มาก มี Daybed มาให้ด้วย ซึ่งอาการเย็นๆตอนผมไปพักนอนตรงนี้คือฟินมากๆครับ วืวก็ดีมากๆด้วย เพราะห้องพักที่นี่ทุกห้องจะหันเข้าภูเขาที่เป็นวิว Signature ของโรงแรมเลยครับ และห้องที่ผมได้อยู่บนชั้น 3 ชั้นที่สูงที่สุดของโรงแรม วิวคือดีมากครับและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นล่างครับ กลับมาที่ภายในห้องนอนครับ เตียงนอน ฟูก และผ้าปู คือพีคมากกกกกก อันนี้ขอชมแบบชมหนักๆเลยครับ น้องๆที่ Capella เลยนุ่มฟูนอนดีย์ แบบนอนฟินๆคาเตียงได้ยาวๆเลยครับ อันนี้ผมให้สามผ่านไปเลยเรื่องที่นอนครับ ถัดไปที่ห้องน้ำ ซึ่งก่อนถึงจะมีห้องแต่งตัวแยกมาอีกห้องนึงก่อนด้วยครับ ห้องน้ำคือขาวโล้งๆ และเด่นด้วยโคมไฟที่อยู่กลางห้องเลยครับ มีอ่างอาบน้ำให้ Bath Amenities ใช้ของ Panpuri กลิ่นคือสป๊าสปาเลยครับ และที่ต้องชมคือระบบน้ำครับ ไหลแรงไหลดีไหลแบบอาบสะใจเลยครับ

อาหารเช้า อันนี้มีทั้งข้อแปลกๆสำหรับผมส่วนตัวกับข้อที่ชมครับ เอาที่ชมก่อน อาหารเช้าอร่อยครับ ข้ามต้มกับผัดไทคือเทพมากอร่อยแบบต้องสั่งเพิ่มเลยครับ เมนุจะมีเป็นเล่มให้เลือกครับตัวเลือกไม่เยอะ แต่อร่อยหลายเมนูครับ คราวนี้มาถึงสิ่งที่ผมงงกันบ้าง คืออย่างที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่แรก โรงแรมบอกว่าตัวเองเป็น Luxury Wellness Hotel ใช่มั้ยครับ แต่ๆๆๆๆ เมนูสุขภาพคือไม่มีเลยครับ ไม่มีคือไม่มีแม้แต่เมนูสลัดเลยนะครับ ซึ่งตอนแรกผมก็คือเพลิดเพลินกับผัดไทจนมาคิดว่าเอออยากได้สลัดแหะ แต่ๆหาในเมนูไม่เจอ และมานั้งคิดๆดูอ่าวไมไม่มีเมนูสุขภาพเลยหว่า เลยทำผมงงๆไปนิดนึงครับกับเรื่องนี้ (ผมมีรูปเมนูแนบไว้ด้วยนะครับ)

อาหารมื้ออื่นๆ ห้องอาหารที่นี่จะมีแค่ห้องอาหารหลักเท่านั้นเลยครับ และอีกห้องจะเป็น Tea Room ที่ห้องอาหารหลักซึ่งเป็นห้องอาหารเดียวกับห้องอาหารเช้านั้นเลยครับ อาหารสำหรับผมถือว่าอร่อยเลยครับ อาหารไทยคือรสชาติแบบคนไทยทานเลย หรือถ้าเป็นพวกสปาเก็ตตี้ก็อร่อยครับ แล้วราคาก็เหมือนร้านอาหารนอกโรงแรมเลยครับ ราคาดีมากเลยครับ สามารถฝากท้องได้ตลอดของทริปครับ ส่วนห้อง Tea Room อันนี้ก่อนพูดถึงอาหารต้องขอชมก่อนเลยครับว่าภายในสวยมากกกกก สี การตกแต่ง คือเทสมากครับ ส่วน Afternoon Tea ชาคือใช้ของ TWG ครับส่วนอาหารก็นิดๆหน่อยๆครับ ถ้าเทียบกับราคาก็โอเคครับมาตรฐานอยู่ครับ

สปา สปาของที่นี่ตอนเข้าไปตรง Spa Reception ตอนเข้าไปไม่ได้ว๊าวอะไรเท่าไหร่นะ แต่พอเข้าห้องนวดเท่านั้นแหละตามรูปที่ผมลงเลยครับ โอ๊ยยยยยสวยยยยยยยยยยยยย สวยพร่ำเพื่อมากครับ โดยที่ผมได้จะเป็นห้องคู่ครับ โดยในห้องจะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้วย ซึ่งถ้าถามเรื่องการนวด บอกเลยครับกดเส้นได้เน้นๆ นวดโดนทุกจุด แต่ถ้าจะถามถึง protocol ตามที่สปาตามโรงแรมมีอันนี้ขอให้ลืมไปได้เลยครับ เพราะ พนง. ที่นี่สวนใหญ่เป็นคนพื้นที่ดังนั้น Protocol อะไรพวกนี้เค้าอาจจะไม่เข้าใจครับ แต่ถามว่าปรัสบการณ์โดยรวมสำหรบผมดีมั้ย ถือว่าดีครับ เพราะจุดประสงค์หลักผมคือนวดผ่อนคลาย ดังนั้นพวกขั้นตอนต่างๆผมเลยไม่ได้ไปโฟกัสอะไรมากนักครับ และเรื่องราคาก็คือ ราคาดีเลยครับ เหมือนราคา Health Land เลยครับดังนั้นนวดได้สบายกระเป๋าครับ

บริการ ที่นี่ถ้านับตามScaleที่โรงแรมบอกเลยนะครับว่าเป็น Luxury ผมว่ายังต้องปรับปรุงความาตรฐานอยู่นิดนึงครับ แต่ถามว่าพนักงานที่นี้ดีมั้ย ผมบอกว่าดีน่ารัก 100% ครับ แต่พอโรงแรมเลือกใช้คำว่า Luxury ผมว่ามันต้องมีความเนียบและความเป๊ะที่มากกว่านี้อีกนิดนึงครับ แต่ถามว่าพนักงานที่นี่ทำไรที่งงมั้ย ก็ไม่มีนะสำหรับผมบริการคือยิ้มแย้มต้อนรับดีมากๆ แต่ในเมื่อโรงแรมบอกว่าเป็น Luxury ผมก็ต้องวัดที่เลเวลที่โรงแรมบอกแหละครับ ซึ่งถ้าโรงแรมไม่บอกตัวเองเป็น Luxury นะหรือบอกว่าตัวเองเป็น premium scale นะข้อนี้ผมให้เต็ม 100% เลยจริงๆครับ เพราะพนักงานทุกคนคือน่ารักมากจริงๆครับ ( การรีวิวหัวข้อนี้นี่ผมเสียวจริงๆครับ ว่าพนักงานจะโดนบ่นมั้ย เอาเป็นว่าถ้าผู้บริหารโรงแรมมาเห็น ผมขอว่าอย่าไปหักคะแนนน้องๆพนักงานเลยนะครับ เค้าทำเต็มที่แล้วจริงๆ ทำเต็มที่เท่าที่เค้าทำได้แล้วจริงๆครับ แต่สิ่งที่พวกเค้าอาจจะขาดไปคือความรู้ที่เป็น Know how ทางด้าน Luxury Hotel Hospitality ครับ ซึ่งปกติพวกเชนใหญ่ๆ ยิ่งจากต่างประเทศจะเก่งกันครับ เพราะเค้ามีเป็น Bible กันเลย อันนี้อาจจะต้องพัฒนาผ่านประสบการณ์และการฝึกอบอมกันไปครับ )

สรุป อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวผมนะ คือที่นี่อะไรที่สวยคือสวย แบบสวยพร่ำเพื่อมากครับ สวยแม้งทุกมุม ถ่ายรูปอย่างไงก็สวย ขนาดบันไดเดินขึ้นตึกยังถ่ายรูปสวย อันนี้คือสิ่งที่ต้องยอมเลยครับว่ารูปที่โรงแรมใช้โฆษณากับของจริงคือตรงปกหมดเลย แล้วเรื่องความสะดวกสบาย เรื่องห้องพัก คือหายห่วงครับ ได้มาตรฐานโรงแรมอยู่ใช้ของดีหมด แบบลงทุนหนักเลยครับ และที่ต้องชมอีกเรื่องเลยคืออาหารครับ คืออาหารอร่อยแบบอร่อยจริงๆฝากท้องไว้ได้เลยแถมราคาก็ดีย์มากสำหรับคุณภาพอาหารขนาดนี้ แต่ส่วนที่เรื่องของราคา ผมขอใช้คำนี้จริงๆครับว่า ถ้าใครสะดวกใช้เงินซื้อประสบการณ์ หรือต้องการที่พักแบบสวยแบบสวยมากๆ อยากได้ที่พักสงบๆกลางป่า วิวจากห้องดีๆ ที่นี่ตอบโจทย์ครับ แต่ถ้าใครมาด้วยราคาดังกล่าวและหวังแบบ Expectation ตามมาตรฐานโรงแรม Luxury อันนี้อาจจะไม่เหมาะครับ แต่ผมเข้าใจโรงแรมนะ ด้วยความที่โรงแรมนี่น่าจะเป็นโรงแรมเพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดสระบุรีที่ลงทุนหนักและตั้ง Target ลูกค้าระดับนี้ และด้วยความสระบุรียังไม่ได้เป็นเมืองหลักที่จะหาพนักงานที่มีทักษะเทียบเท่าตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆได้มากนัก ขนาดใกล้ๆกันคือเขาใหญ่ โรงแรมเชญใหญ่ที่มีในบริเวณนั้นยังมีปัญหาเดียวกันเลย แล้วกับพื้นที่ที่นอกจากตรงนั้นผมว่าแก้ปัญหานี้ได้ยากกว่าอีกครับ แต่ถ้าถามผมโดยรวมโดยตัดเรื่องราคาออกไป (ซึ่งราคาที่ผมเช็คจากเพจโรงแรมล่าสุดในขณะผมเขียนรีวิวยังอยู่ที่ 7,500 ++) ผมว่าโดยรวมผมถือว่าโอเคสำหรับผมอยู่ครับ อาจจะเพราะผมอาจจะเข้าใจสถานการณ์เรื่องพนักงานอยู่เป็นทุน เลยมองข้ามเรื่อง Luxury Hospitality Protocol ได้ครับ และประสบการณ์ ณ ขณะผมเข้าพักผมถือว่าผมได้มาพักผ่อนจริงๆ และมันก็ได้ตามที่หวังซะด้วย ดังนั้นส่วนตัวผมเลยถือว่าโอเคครับ